บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3
1. เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา
(Children
with Speech and Language Disorders)
เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด หมายถึง
เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติ
ในด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง
จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
1. ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง (Articulator
Disorders)
- เสียงบางส่วนของคำขาดหายไป
"ความ" เป็น "คาม"
- ออกเสียงของตัวอื่นแทนตัวที่ถูกต้อง
"กิน" "จิน" กวาด ฟาด
- เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย
"หกล้ม" เป็น "หก-กะ-ล้ม"
- เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง
"แล้ว" เป็น "แล่ว"
2. ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด (speech
Flow Disorders)
- พูดไม่ถูกตามลำดับขั้นตอน
ไม่เป็นไปตามโครงสร้างของภาษา
- การเว้นวรรคตอนไม่ถูกต้อง
- อัตราการพูดเร็วหรือช้าเกินไป
- จังหวะของเสียงพูดผิดปกติ
- เสียงพูดขาดความต่อเนื่อง
สละสลวย
3. ความบกพร่องของเสียงพูด (Voice Disorders)
- ความบกพร่องของระดับเสียง
- ความบกพร่องของระดับเสียง
- เสียงดังหรือค่อยเกินไป
- คุณภาพของเสียงไม่ดี
ความบกพร่องทางภาษา หมายถึง
การขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด
และ/หรือไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำได้
1. การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย (Delayed
Language)
- มีความยากลำบากในการใช้ภาษา
- มีความผิดปกติของไวยากรณ์และโครงสร้างของประโยค
- ไม่สามารถสร้างประโยคได้
- มีความบกพร่องทางเชาว์ปัญญา
อารมณ์ สมองผิดปกติ
- ภาษาที่ใช้เป็นภาษาห้วน
ๆ
2. ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง
โดยทั่วไปเรียกว่า Dysphasia หรือ
aphasia
-อ่านไม่ออก
(alexia)
- เขียนไม่ได้
(agraphia )
- สะกดคำไม่ได้
- ใช้ภาษาสับสนยุ่งเหยิง
- จำคำหรือประโยคไม่ได้
- ไม่เข้าใจคำสั่ง
- พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้
Gerstmann’s syndrome
ไม่รู้ชื่อนิ้ว (finger agnosia)
ไม่รู้ซ้ายขวา (allochiria)
คำนวณไม่ได้ (acalculia)
เขียนไม่ได้ (agraphia)
อ่านไม่ออก (alexia)
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา
- ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ
ร้องไห้เบา ๆ และอ่อนแรง
- ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ
10 เดือน
- ไม่พูดภายในอายุ
2 ขวบ
- หลัง
3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก
- ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
- หลัง
5 ขวบ
เด็กยังคงใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา
- มีปัญหาในการสื่อความหมาย
พูดตะกุกตะกัก
- ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
2. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
(Children with
Physical and Health Impairments)
- เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
- อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
- เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
- มีปัญหาทางระบบประสาท
- มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
โรคลมชัก (Epilepsy) เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกัน
1.การชักในช่วงเวลาสั้น
ๆ (Petit Mal)
- อาการเหม่อนิ่งเป็นเวลา 5-10วินาที
- มีการกระพริบตาหรืออาจมีเคี้ยวปาก
- เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก
- เด็กจะนั่งเฉย
หรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
2.การชักแบบรุนแรง
(Grand Mal)
เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะส่งเสียง
หมดความรู้สึก ล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที จากนั้นจะหาย และนอนหลับไปชั่วครู
3.อาการชักแบบ
Partial Complex
- มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที
- เหม่อนิ่ง
- เหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อคำพูด
- หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
และต้องการนอนพัก
4.อาการไม่รู้สึกตัว
(Focal Partial)
เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น
เด็กไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่างโดยที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า
เดินเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก
5.ลมบ้าหมู
(Grand Mal)
เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ
และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน ในกรณีเด็กมีอาการชัก
- จับเด็กนอนตะแคงขวาบนพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง
- ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก
- หาหมอนหรือสิ่งนุ่มๆรองศีรษะ
- ดูดน้ำลาย
เสมหะ เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
- จัดเสื้อผ้าเด็กให้หลวม
- ห้ามนำวัตถุใดๆใส่ในปาก
- ทำการช่วยหายใจโดยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ
ซี.พี. (Cerebral Palsy)
- การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ
หรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่างคลอด หรือหลังคลอด
- การเคลื่อนไหว
การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่าง ๆ
ของสมองแตกต่างกัน
1.กลุ่มแข็งเกร็ง
(spastic)
- spastic
hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
- spastic
diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
- spastic
paraplegiaอัมพาตครึ่งท่อนบน
- spastic
quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง (athetoid , ataxia)
- athetoid อาการขยุกขยิกช้า ๆ หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของ เด็กบางรายอาจมีคอเอียง ปากเบี้ยวร่วมด้วย
- athetoid อาการขยุกขยิกช้า ๆ หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของ เด็กบางรายอาจมีคอเอียง ปากเบี้ยวร่วมด้วย
- ataxia มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย
กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
3. กลุ่มอาการแบบผสม
(Mixed)
กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscular Distrophy)
- เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้น
ๆ เสื่อมสลายตัว
- เดินไม่ได้
นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
- จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง
คือ ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม
โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedic)
ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด
เช่น เท้าปุก (Club Foot)
กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน
อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด (Spina Bifida)
ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการด้วยโรคติดเชื้อ
(Infection) เช่น
วัณโรค กระดูกหลังโกง กระดูกผุ เป็นแผลเรื้อรังมีหนอง เศษกระดูกผุ กระดูกหัก
ข้อเคลื่อน ข้ออักเสบ
โปลิโอ (Poliomyelitis)
- มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก
แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา
- ยืนไม่ได้
หรืออาจปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์เสริม
โรคกระดูกอ่อน (Osteogenesis Imperfeta)
โรคศีรษะโต (Hydrocephalus)
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
แขนขาด้วนแต่กำเนิด (Limb Deficiency)
เลน่า มาเรีย คลิงวัลล์ ซึ่งเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงของสวีเดน ในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 1968 เลน่า ยูฮันซอนได้ถือกำเนิดขึ้น โดยที่เธอนั้นได้เกิดมาพร้อมกับความพิการ คือตรงส่วนที่เป็นแขนเธอไม่มีอะไรเลย ที่หัวไหล่มีแค่ปุ่มเล็กๆ 2 ปุ่ม ขาข้างขวาดูปกติแต่ข้างซ้ายนั้นสั้นกว่าข้างขวาครึ่งหนึ่ง ส่วนเท้าซ้ายชี้ขึ้นข้างบนเกือบถึงขา
"นิค วูจิซิค" (Nick Vujicic) ชายพิการไม่มีแขนขาผู้หนึ่ง ที่ซึ่งเขาไม่เคยย่อท้อ แต่กลับเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนมากมายให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับชีวิต ซึ่งเรื่องราวของเขาโด่งดังไปทั่วโลก
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
- มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
- ท่าเดินคล้ายกรรไกร
- เดินขากะเผลก
หรืออึดอาดเชื่องช้า
- ไอเสียงแห้งบ่อย
ๆ
- มักบ่นเจ็บหน้าอก
บ่นปวดหลัง
- หน้าแดงง่าย
มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว
- หกล้มบ่อย
ๆ
- หิวและกระหายน้้ำอย่างเกินกว่าเหตุ
ความรู้ที่ได้รับและการนำไปใช้
ได้ความรู้เกี่ยวกับเด็กพิเศษประเภทต่างๆ ซึ่งจากที่ได้เรียนมาแล้ว และเมื่อเรียนวันนี้ทำให้ได้ทบทวนความรู้เดิม อีกทั้งมีความรู้เสริมใหม่ๆที่บางเรื่องอาจยังไม่รู้เข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย
ประเมินผล
ประเมินตนเอง เข้าเรียนตรงเวลา เเต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจฟังอาจารย์สอน
ประเมินเพื่อน เพื่อนทุกคนตั้งใจเรียนไม่พูดคุยเสียงดังขณะที่อาจารย์สอน
ประเมินอาจารย์ อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา ยิ้มเเย้มเเจ่มใสเป็นกันเองกับนักศึกษาเสมอ มีการยกตัวอย่างประกอบเนื้อหาเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น